ฐานข้อมูลส่งเสริมและยกระดับคุณภาพสินค้า OTOP

การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ (Ho, TY., 2001)

              การใช้ครีมกันแดดที่ไม่มีคุณภาพ อาจไม่ได้รับประโยชน์จากการใช้ครีมกันแดดนั้นเลย ดังนั้นควรมีหลักการในการเลือกใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้อง ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพ ควรมีคุณสมบัติที่ดีประกอบกัน ดังนี้

              1. ควรมีค่าการป้องกันแดด (SPF) ที่มีค่าสูง ๆ ค่า SPF เป็นค่าความสามารถป้องกันรังสี UVB ถ้าใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF มีค่าสูงเท่าไร ปริมาณรังสี UVB ที่ผ่านไปถึงผิวก็มีค่าน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ประมาณ 30-60 ยิ่งถ้าคนที่ต้องอยู่ในที่มีแสงแดดจัด ๆ หรือมีปัญหาเป็นฝ้า หรือกระ การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง

              2. ควรมีความสามารถป้องกันรังสีทั้ง UVA และ UVB การที่มีค่า SPF มาก ๆ เพียงอย่างเดียว ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าจะป้องกันรังสี UVA ได้ เพราะค่า  SPF เป็นการวัดเฉพาะความสามารถในการป้องกัน UVB เท่านั้น สารกันแดดที่ดีและมีคุณสมบัติในการป้องกันรังสีทั้ง  UVA และ UVB คือ  Mexoryl XL: Drometrizole trisiloxane และความสามารถในการป้องกันรังสี UVA จะมีประสิทธิภาพสูงสุดถ้า Mexoryl XL ผสมรวมกับ Mexoryl SX: Terephthalylidene dicamphor sulfonic acid  

              3. ควรมีความคงตัวสูง สารกันแดดหลายชนิดจะเสื่อมสลายได้ง่ายหลังจากถูกแสงแดดและไม่นาน สารกันแดดนั้นก็หมดประสิทธิภาพไปโดยไม่สามารถป้องกันผิวจากแสงแดดได้อีก ดังนั้นควรเลือกครีมกันแดดที่ไม่เสื่อมสลายได้ง่ายเมื่อถูกแสง (light - stable หรือ  photo-stable)

              4. ควรประกอบด้วยสารกันแดดหลายชนิด ซึ่งจะเป็นการช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ครีมกันแดดนั้นสามารถกันรังสีได้ทุกความยาวคลื่นและสารกันแดดบางชนิดช่วยให้สารกันแดดอีกชนิดหนึ่งมีความคงตัวสูงขึ้น สารกันแดดหนึ่งที่นิยมผสมในครีมกันแดดและใช้กันอย่างแพร่หลายคือ Parsol 1789: Butyl methoxydibenzoylmethane เพราะเป็นสารกันแดดที่ดี สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ และถ้าอยู่ร่วมกับสารกันแดด Octocrylene จะทำให้ Parsol 1789 มีความคงตัวได้สูง