วศ.อว.ลงพื้นที่ตรวจประเมินการควบคุมคุณภาพการผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า
วันที่ 18-19 สิงหาคม 2563 กลุ่มรับรองคุณภาพผล...
วศ.อว. ถ่ายทอดเทคโนโลยี หลักสูตร “วิทยาศาสตร์การหมักอาหารให้ปลอดภัย” ณ จังหวัดนนทบุรี
วันที่ 5 สิงหาคม 2563 กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการ...
วศ.อว. ถ่ายทอดเทคโนโลยี “การแปรรูปมะนาว” ณ จังหวัดชลบุรี
กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทย...
วศ.อว. ลงพื้นที่ให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทอาหาร ณ จังหวัดเพชรบุรี
วันที่ 23 กรกฎาคม 2563 กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ส...
พืชให้สี
สีย้อมธรรมชาติจากพืช (Vegetable Dyes) สีย้อมที่ได้จากพืชจัดเป็นกลุ่มสารสีหลักของสีย้อมธรรมชาติ โดยเป็นสีย้อมที่ได้จากทุกส่วนของพืชทั้ง ราก เปลือก ลำต้น เนื้อไม้ ใบ ดอก ผล และเมล็ด ซึ่งสีย้อมกลุ่มนี้มีความหลากหลาย สามารถแบ่งโดยใช้กรรมวิธีการย้อมเป็นเกณฑ์ได้ 2 กลุ่มคือ.-
- การย้อมเย็น หรือการย้อมแบบหมัก เป็นสีย้อมที่ได้จากพืช เช่น ผลมะเกลือ ห้อม และคราม เป็นการย้อมสีจากพืชที่มีกรรมวิธีการย้อมโดยไม่ใช้ความร้อน แต่อาศัยคุณสมบัติธรรมชาติของสารสี และปฏิกิริยาเคมีทางธรรมชาติช่วยให้สารสีติดกับเส้นใย โดยจะหมักเส้นใยไว้ในน้ำย้อมที่อุณหภูมิปกติ ซึ่งพืชแต่ละชนิดจะมีรายละเอียดวิธีการย้อมที่แตกต่างกันตามชนิดของสารสีที่ได้จากพืช
- การย้อมแบบร้อน สีย้อมธรรมชาติที่ใช้การย้อมแบบร้อน จะเป็นสีย้อมที่ได้จากพืชทั่วไปและครั่ง โดยจะนำวัตถุดิบย้อมสีมาสับให้ละเอียดแล้วต้มให้เดือดเพื่อสกัดสารสีออกจากพืช จากนั้นจึงทำการย้อมกับเส้นใย จะมีการใช้ความร้อนและสารช่วยย้อมช่วยให้สารสีติดกับเส้นใย
1 มีนาคม 2559 - ดร. สุทธิเวช ต.แสงจันทร์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานเปิดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “สร้างคุณภาพสินค้า OTOP เพื่อรายได้ที่ยั่งยืน” กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ โดยมี ดร. ณัชนพงศ์ วชิรวงศ์บุรี รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวรายงานการจัดงาน และนายสำเริง ไชยเสน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้แก่ ผู้ประกอบการ OTOP จากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 300 คน ณ โรงแรม ดิเอ็ม เพรส จังหวัดเชียงใหม่
ดร. สุทธิเวช ต.แสงจันทร์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์บริการมุ่งเน้นขับเคลื่อนโดยนำผลงานวิจัยของกรมมาถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ OTOP ต่อเนื่อง มีแนวทางการดำเนินงาน โดยบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านวิชาการ การแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพการผลิต สินค้า OTOP ทั้งกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มของใช้ของตกแต่งของที่ระลึก กลุ่มสมุนไพรไม่ใช่อาหาร กลุ่มผ้าและสิ่งทอ เน้นการถ่ายทอด เทคโนโลยี เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ คาดหวังให้เกิดการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการของกรมวิทยาศาสตร์บริการจะได้รับการติดตามการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง จนถึงการส่งเสริมให้เข้าสู่กระบวนการส่งสินค้าเพื่อขอการรับรองให้ได้คุณภาพและมีมาตรฐานรองรับ
สินค้า OTOP ในแต่ละภาคจะมีความหลากหลาย มีเอกลักษณ์ท้องถิ่นที่โดดเด่นแตกต่างกันไป ในการลงพื้นที่เพื่อนำเทคโนโลยีลงไปสนับสนุนการแก้ปัญหา พัฒนาคุณภาพการผลิตให้ได้มาตรฐาน กรมวิทยาศาสตร์บริการให้ความสำคัญร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ตรงตามความต้องการและสอดคล้องตามยุทธศาสตร์เป้าหมายของจังหวัด โดยภาคเหนือ สินค้า OTOP กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่เป็นอาหารทอด น้ำพริกและน้ำพริกแกง ซึ่งมีตัวอย่างเทคโนโลยีการทอดที่เป็นเทคนิคการควบคุมการผลิตอย่างเหมาะสมที่มีผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ช่วยลดปัญหาผลิตภัณฑ์มีกลิ่น และค่าเพอร์ออกไซด์เกินมาตรฐาน มผช. กำหนด และช่วยให้สีของผลิตภัณฑ์มีความสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้มีการใช้ชุดทดสอบความสะอาดบนภาชนะสัมผัสอาหารและมือ เพื่อควบคุมความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และสุขลักษณะส่วนบุคคล เทคโนโลยีการ ยืดอายุการเก็บรักษา การบรรจุในบรรจุภัณฑ์ป้องกันแสงและออกซิเจน ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการเก็บรักษานานขึ้น เทคโนโลยีการทำแห้ง เป็นเทคนิคช่วยแก้ปัญหาการเกิดสีน้ำตาลในผลิตภัณฑ์กล้วยอบระหว่างการเก็บรักษาได้
กลุ่มสินค้าของใช้ของประดับตกแต่ง เซรามิก ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เนื้อดินและเคลือบไฟต่ำ อุปกรณ์วัดอุณหภูมิ สำหรับเตาเผาอุณหภูมิสูง การวัดปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกระบวนการผลิตเซรามิกและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เซรามิกโดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น เทคโนโลยีการป้องกันการเกิดเชื้อราในผลิตภัณฑ์จากกก เป็นต้น นอกจากนี้ภายในงานสัมมนาฯ ยังได้จัดนิทรรศการแสดงให้เห็นภาพรวมการสนับสนุนการพัฒนาสินค้า OTOP ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ ด้วยเพื่อให้เป็นช่องทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการ OTOP จะได้มีความเข้าใจและสามารถเข้าถึงการให้บริการได้ตรงตามความต้องการ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ประกอบการนำสินค้าร่วมจัดจำหน่ายภายในงานด้วย