Development of Protection Suits for Bloodborne Pathogen Safety for The Emergency Use During The Pandemic of COVID-19 in Thailand การพัฒนาชุดป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรองรับสถานการณ์เร่งด่วนการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทย

Abstract

ในช่วงแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศไทย เมื่อต้นปี พ.ศ. 2563 เกิดการขาดแคลนชุดป้องกันการติดเชื้อ ที่ได้มาตรฐานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งชุดแบบ Coverall และแบบ Isolation gown เนื่องจากขณะนั้นยังไม่มีการผลิตชุดดังกล่าวภายในประเทศไทย ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ กรมวิทยาศาสตร์บริการจึงร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาชุดป้องกันการติดเชื้อแบบ Coverall ระดับ 4 ตามมาตรฐาน ANSI/AAMI PB70 โดยได้ทดลองนำผ้าสปันบอนด์เส้นใยพอลิโพรพีลีน (PP) น้ำหนัก 40  gsm และพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) น้ำหนัก 50 gsm มาเคลือบด้วยฟิล์มโพลิเอทิลีน (PE) แบบระบายอากาศ (Breathable film) น้ำหนัก 20 gsm ซึ่งจากการทดสอบพบว่าผ้าทั้งสองมีสมบัติทางกายภาพใกล้เคียงกับชุด Coverall ทางการแพทย์จากต่างประเทศ และสามารถป้องกันการซึมผ่านของเชื้อไวรัส Phi-X174 bacteriophage ซึ่งใช้เป็น phage suspension ที่มีลักษณะเป็นทรงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.027 ไมโครเมตร เล็กกว่าเชื้อ COVID-19 ที่มีขนาด 0.125 ไมโครเมตร  และนำผ้าไปตัดเย็บชุด Coverall พบว่าการเย็บตะเข็บแบบ Ultrasonic สามารถป้องกันการซึมผ่านของไวรัสได้  และจากการประเมินการใช้งานจริงของบุคลากรทางการแพทย์ พบว่าผู้ประเมินเห็นด้วยว่าชุดที่ตัดเย็บมีความเหมาะสมและใส่แล้วมีความคล่องตัว โดยมีความพึงพอใจกับชุดที่ทำจากผ้า PET มากกว่าผ้า PP

Development of Protection Suits for Bloodborne Pathogen Safety for The Emergency Use During The Pandemic of COVID-19 in Thailand

During the epidemic of COVID-19 in Thailand at the beginning of 2020, there was a shortage of personal protective suit for medical personnel in Thailand as they were always imported. The department of Science Service in cooperating with other institutes developed the coverall level 4 suit, according to ANSI/AAMI PB70, for medical use. Two types of spunbond nonwoven fabric were used to tailor the the coverall Level 4 suit, namely, Polypropylene (PP) with the weight of 40 gsm and Polyethylene terephthalate (PET) 50 gsm. Both fabric were coated with the breathable Polyethylene (PE) film 20 gsm. The physical properties of both fabric is similar to the commercial coverall suits. Both fabric could prevent the penetration of Phi-X174 bacteriophage, that used as the phage suspension which had a spherical shape with 0.027 mm in diameter and smaller than COVID-19 disease (0.125 mm in diameter). Seaming is also an important factor because seams must prevent the virus penetration. It was found that ultrasonic seaming was the best method. The usability survey indicated that the medical staffs satisfied with the coverall Level 4 suits as they was suitable and flexible to use. Nevertheless, the PET fabric was more preferred than the PP.